SCG

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

เป้าหมายที่ 6:
น้ำสะอาดและสุขาภิบาล
เป้าหมายที่ 14:
ทรัพยากรทางทะเล
เป้าหมายที่ 15:
ระบบนิเวศบนบก

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย
บริษัทดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพในโครงการต่างๆ ทุกไซต์งาน เพื่อหลีกเลี่ยง และลดผลกระทบที่อาจเกิดจากดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินงาน
ดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพในโครงการต่างๆ ทุกไซต์งาน ผ่านกระบวนการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท
เป้าหมาย
อนุรักษ์ระบบนิเวศและสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย
ผลการดำเนินงาน
ดำเนินการส่งเสริมให้ชุมชนและพนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกต้นไม้ และการฟื้นฟูพื้นที่สีเขียว

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ

ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กรในระยะยาว ความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศช่วยสนับสนุนทรัพยากรธรรมชาติที่ธุรกิจพึ่งพา และมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการขาดแคลนวัตถุดิบ

โรงไฟฟ้ากลุ่มราชพัฒนามีศักยภาพในการเติบโตในภาคพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานชีวมวลซึ่งเป็นพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่อุตสาหกรรมและเกษตรกรรมที่ได้รับการจัดสรร ทำให้มีผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพในระดับต่ำ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในด้านนโยบายพลังงานสะอาด ช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างความร่วมมือกับชุมชน

อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการจัดการผลกระทบสิ่งแวดล้อม การจัดหาวัตถุดิบชีวมวลอย่างยั่งยืน และความไม่แน่นอนของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของแหล่งวัตถุดิบ รวมถึงการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงนโยบายพลังงานของภาครัฐที่อาจส่งผลต่อโครงสร้างต้นทุนและการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและการพัฒนาเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนและรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า

แนวปฏิบัติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัทต่อระบบนิเวศ บริษัทจึงได้กำหนดแนวทางการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพภายใต้นโยบายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ดังนี้

แนวทางการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพภายใต้นโยบายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
  • ดำเนินการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management)

    โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง แสวงหาแนวทางยกระดับประสิทธิภาพการจัดการและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงรักษาระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มคำนึงถึงความสำคัญ อันจะยังประโยชน์แก่สังคมและมวลมนุษยชาติอย่างยั่งยืน

  • ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient Use of Resources)

    โดยส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรทุกประเภทให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงแสวงหาแนวทางและวิธีการลดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

  • ดำเนินการจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Management)

    โดยบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องตามกฎหมายและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงแสวงหามาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและวิธีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการประกอบธุรกิจ

การประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

กลุ่มบริษัทราชพัฒนามีความมุ่งมั่นในการดำเนินการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางชีวภาพในโครงการต่างๆ โดยมีการพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งภายในและบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่โครงการของบริษัท รวมถึงพื้นที่ที่บริษัทมีการดำเนินการฟื้นฟูหรือปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ (Bio-diverse Habitats) ที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการ

บริษัทได้ใช้กระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งจะพิจารณาและออกแบบโครงการเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศ โดยเฉพาะในด้านการฟื้นฟูพื้นที่สีเขียว การบริหารจัดการน้ำและของเสีย และการลดมลภาวะทางอากาศ นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับชุมชนและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างผลกระทบในทางบวกต่อความหลากหลายทางชีวภาพกระบวนการประเมินผลกระทบทางชีวภาพนี้ยังรวมถึงการพัฒนาแผนการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Action Plan: BAP) สำหรับทุกไซต์งานที่สำคัญของบริษัท เพื่อควบคุมและจัดการความเสี่ยงทางชีวภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การประเมินผลกระทบด้านความหลากหลายทางชีวภาพผ่านกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ซึ่งบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลผลการประเมินในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตาทที่กฎหมายกำหนด

ข้อมูลอ้างอิง: https://eia.onep.go.th/eia/detail?id=12336

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ชุมชนและสังคม
ผู้ถือหุ้น
ภาครัฐ และหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินการด้านความยั่งยืน