การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม


เป้าหมายและผลการดำเนินงาน
เป้าหมาย
ผลการดำเนินงาน
สถิติเกี่ยวกับเหตุการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม ปี 2565-2567
เหตุการณ์/ปัญหา | สถิติจำนวน (ครั้ง/ปี) | ||
---|---|---|---|
2565 | 2566 | 2567 | |
ข้อร้องเรียนและไม่มีเหตุการณ์เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม (ครั้ง) | 0 | 0 | 0 |
ค่าปรับจากการละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย (บาท) | 0 | 0 | 0 |
ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ
กลุ่มราชพัฒนาตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่สมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น และความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียที่ให้ความสำคัญกับหลัก ESG
บริษัทจึงมุ่งมั่นพัฒนาระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับสากล ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยดำเนินนโยบายคุณภาพ ความปลอดภัย และอนุรักษ์พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การลดก๊าซเรือนกระจก การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับองค์กร ชุมชน และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า
นโยบายและการปฏิบัติตามมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
บริษัทควบคุมการดำเนินงานด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย การอนุรักษ์และการจัดการพลังงานให้สอดคล้องตามกฎหมายและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ปกป้อง ป้องกัน ลดและหลีกเลี่ยงการปล่อยมลพิษ น้ำทิ้ง ขยะและของเสียที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานและทรัพยากรน้ำ โดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประโยชน์สูงสุดและยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยคงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ รวมถึงการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
บริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อลดการเกิดอุบัติการณ์ อุบัติเหตุ ความเสียหายต่อทรัพย์สิน การบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยจากการทำงานที่มีโอกาสเกิดขึ้น และป้องกันความสูญเสียจากความเสี่ยงอันจะมีผลกระทบต่อพนักงาน ผู้รับเหมาและผู้มีส่วนได้เสีย โดยส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย การจัดการสุขภาพ อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี
ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ความสามารถ และสร้างจิตสำนึกให้พนักงาน ผู้รับเหมา และผู้มีส่วนได้เสียตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารงานคุณภาพ การจัดการสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย รวมถึงการอนุรักษ์พลังงานในการดำเนินงาน
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงการให้คำปรึกษาและรับฟังความต้องการและความคาดหวังของพนักงาน ผู้รับเหมา และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
สนับสนุนทรัพยากรที่เหมาะสมและเพียงพอในการดำเนินงานตามนโยบาย ให้บรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย การอนุรักษ์พลังงาน รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
จัดการความมั่นคงของระบบสาธารณูปโภค เตรียมความพร้อมในการรองรับกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่มีผลกระทบต่อการผลิตและบริการในห่วงโซ่อุปทาน โดยกำหนดมาตรการจัดการและแหล่งทรัพยากรสำรองที่เพียงพอต่อการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในระบบสาธารณูปโภคอย่างยั่งยืน
บริษัทกำหนดให้มีการทบทวนผลการดำเนินงานและเป้าหมายคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย และอนุรักษ์พลังงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิผล รวมทั้งดำเนินการเปิดเผยข้อมูลและสื่อสารการดำเนินการดังกล่าวแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างโปร่งใส และสม่ำเสมอ
การปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
การบริหารจัดการธุรกิจของกลุ่มราชพัฒนา ได้ยึดหลักการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามข้อกำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมาตรการการดำเนินงานที่กำหนดไว้ตามกรอบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) ที่โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอนเนอร์ยี และ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE) และ ประมวลหลักการปฏิบัติ (Code of Practice: CoP) ที่โรงไฟฟ้าชีวมวลสหโคเจน กรีน และโรงไฟฟ้าชีวมวลสหกรีน ฟอเรสท์ โดยดำเนินการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและจัดส่งรายงานผลการดำเนินงาน เป็นประจำต่อเนื่องทุก 6 เดือน นอกจากนี้ยังได้กำหนดนโยบายในการดำเนินงานตามระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยปฏิบัติอย่างถูกต้อง สอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและเสริมสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยระหว่างปี 2548-2567 บริษัทได้ผ่านการตรวจประเมินจากหน่วยงานภายนอก โดยสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (MASCI) และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018


ของกลุ่มบริษัท
ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ของกระบวนการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาและปรับปรุงระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงเดินหน้าปรับปรุงและขยายขอบเขตการดำเนินงานตามมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน