SCG

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

เป้าหมายที่ 6:
น้ำสะอาดและสุขาภิบาล
เป้าหมายที่ 14:
ทรัพยากรทางทะเล

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

โรงไฟฟ้า ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี

เป้าหมาย

ลดการใช้น้ำจากกระบวนการผลิต โดยการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ไม่น้อยกว่า 40,000 m3 โดยคิดเป็น 3% ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด

ผลการดำเนินงาน

ลดการใช้น้ำจากกระบวนการผลิต โดยการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ไม่น้อยกว่า 48,350.20 m3 โดยคิดเป็น % ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด

เป้าหมาย

ลดการใช้น้ำภายในสำนักงาน ไม่น้อยกว่า 2,593.8 m3 คิดเป็น 40% ของปริมาณน้ำที่ใช้ในสำนักงานทั้งหมด

ผลการดำเนินงาน

ลดการใช้น้ำภายในสำนักงาน ไม่น้อยกว่า 2,996.17 m3 คิดเป็น % ของปริมาณน้ำที่ใช้ในสำนักงานทั้งหมด **ในปี 2566 มีงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำภายในสำนักงานค่อนข้างสูง

โรงไฟฟ้า สหโคเจน กรีน

เป้าหมาย

ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต 45,000 m3 ด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่ คิดเป็น 9.74% ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมดของปี 2567

ผลการดำเนินงาน

ลดการใช้น้ำจากกระบวนการผลิต โดยการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ 53,432 m3 โดย คิดเป็น % ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด

เป้าหมาย

ลดการใช้น้ำในสำนักงาน 346 m3 คิดเป็น 4% จากปีฐาน 2566

ผลการดำเนินงาน

ลดการใช้น้ำภายในสำนักงาน 1,105 m3 คิดเป็น % ของปริมาณน้ำที่ใช้ในสำนักงานทั้งหมด

โรงไฟฟ้า สหกรีน ฟอเรสท์

เป้าหมาย

ลดการใช้น้ำจากกระบวนการผลิต โดยการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ไม่น้อยกว่า 20,000 m3/Y โดยคิดเป็น 5.13% ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด

ผลการดำเนินงาน

ลดการใช้น้ำดิบ โดยการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ ได้ 15,507 m3/Y โดยคิดเป็น % ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด

เป้าหมาย

ลดการใช้น้ำในสำนักงาน 1,000 m3 คิดเป็น 45.64% จากปีฐาน 2566

ผลการดำเนินงาน

ลดการใช้น้ำภายในสำนักงาน 1,637 m3 คิดเป็น % ของปริมาณน้ำที่ใช้ในสำนักงานทั้งหมด

ปริมาณการใช้น้ำ

ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567
โรงไฟฟ้า ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี
ปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต (m3) 1,824,400 1,908,007 1,698,676
สัดส่วนปริมาณน้ำดิบ (withdrawal) / MWh (net) หรือปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วย (Water intensity) 1.74 1.98 2.40
ร้อยละของน้ำเสียที่ได้รับการบำบัดก่อนทิ้ง (%) 100 100 100
แนวทางการจัดการน้ำ ระบบบำบัดของสวนอุตสาหกรรม / Green Area / RO Rejected Water Recycle
โรงไฟฟ้า สหโคเจน กรีน
ปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต (m3) 311,616.00 57,221.00 355,857.01
สัดส่วนปริมาณน้ำดิบ (withdrawal) / MWh (net) หรือปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วย (Water intensity) 4.96 5.36 5.34
ร้อยละของน้ำเสียที่ได้รับการบำบัดก่อนทิ้ง (%) 100 100 100
แนวทางการจัดการน้ำ ระบบบำบัดของสวนอุตสาหกรรม / Green Area
โรงไฟฟ้า สหกรีน ฟอเรสท์
ปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต (m3) 400,671.00 448,220.00 391,445.67
สัดส่วนปริมาณน้ำดิบ (withdrawal) / MWh (net) หรือปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วย (Water intensity) 7.12 7.93 4.68
ร้อยละของน้ำเสียที่ได้รับการบำบัดก่อนทิ้ง (%) - - -
แนวทางการจัดการน้ำ Zero Discharge

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ

การจัดการน้ำอย่างยั่งยืนของกลุ่มราชพัฒนามีการวางแผนและดำเนินการที่ครอบคลุมทั้งในเรื่องของการจัดสรรทรัพยากรน้ำ การลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำ และการปรับปรุงการใช้ทรัพยากรน้ำในกระบวนการผลิต ซึ่งทั้งนี้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า มีความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจดังนี้

ความท้าทาย โอกาสทางธุรกิจ
1. ปัญหาการขาดแคลนน้ำ
แม้ว่าจะมีการจัดสรรน้ำจากแหล่งที่เฉพาะเจาะจงและการเก็บน้ำสำรอง แต่ในบางพื้นที่ เช่น โรงไฟฟ้า ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี ที่ใช้น้ำจากแหล่งที่ครอบคลุมหลายจังหวัด ยังมีความเสี่ยงในกรณีที่เกิดปัญหาภัยแล้ง หรืออุทกภัยในพื้นที่ที่อาจกระทบกับแหล่งน้ำหลัก จึงต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือในภาวะวิกฤติ
1. การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
การดำเนินโครงการ RO Rejected Water Recycle และการสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อเก็บน้ำสำรองแสดงถึงความพยายามในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการใช้น้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถเป็นโอกาสทางธุรกิจในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการจัดการน้ำ และเปิดช่องทางในการจำหน่ายหรือให้บริการด้านการบำบัดน้ำแก่ธุรกิจอื่นๆ
2. การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน:
บริษัทต้องรักษาความสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายในเรื่องของคุณภาพน้ำที่ปล่อยออกจากกระบวนการผลิต เช่น การควบคุมอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็น ไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส ซึ่งต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงระบบการจัดการน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
2. การลดต้นทุน
การใช้เทคโนโลยีหมุนเวียนน้ำและการรีไซเคิลน้ำภายในกระบวนการผลิตช่วยลดการใช้น้ำดิบจากแหล่งสาธารณะ ซึ่งสามารถลดต้นทุนการใช้น้ำทิ้งและน้ำดิบได้ นอกจากนี้ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเสียได้อีกทางหนึ่ง
3. ต้นทุนการลงทุน
การลงทุนในระบบบำบัดน้ำและโครงการต่างๆ เช่น ระบบ RO Rejected Water Recycle หรือการสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีค่าใช้จ่ายสูงในระยะแรก การบริหารจัดการงบประมาณและการคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนจึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย
3. ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและชุมชน
การร่วมมือกับภาครัฐ เช่น กรมชลประทาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างข้อตกลงการจัดหาน้ำสำรองสามารถเป็นโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาว ซึ่งช่วยเสริมความมั่นคงและการขยายธุรกิจในอนาคต

แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า

แผนการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

กลุ่มราชพัฒนา ให้ความสำคัญกับการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมในทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่การนำน้ำมาใช้ในกระบวนการผลิต การรักษาสภาพแวดล้อมภายหลังจากกระบวนการผลิต จึงกำหนดมาตการในการจัดการน้ำโดยอยู่ภายใต้ข้อกำหนดทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด และคำนึงถึงผลกระทบต่อปริมาณการใช้น้ำของชุมชนในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการตระหนักถึงหน้าที่ในการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ในภาวะการขาดแคลนน้ำ โดยมีการจัดการ ดังนี้

โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี และโรงไฟฟ้าชีวมวสหโคเจน กรีน

ผลการดำเนินโครงการ RO Rejected Water Recycle ปี 2567 มีปริมาณน้ำที่ลดได้ในกระบวนการผลิต
ลูกบาศก์เมตรต่อปี

ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ โดยใช้น้ำจากแหล่งที่ได้จัดสรรไว้เฉพาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีปริมาณแหล่งน้ำสำรองที่เพียงพอต่อการผลิต และไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำของชุมชน น้ำที่ผ่านกระบวนการผลิตจะถูกส่งไปยัง บ่อปรับสภาพ (Neutralization Basin) เพื่อปรับคุณภาพ และน้ำที่ออกจาก Neutralization Basin จะถูกส่งต่อไปยังบ่อบำบัดน้ำเสียของสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ เพื่อนำกลับมาใช้รดน้ำต้นไม้ และส่วนที่เหลือจึงปล่อยออกสู่แหล่งน้ำภายนอก ทั้งนี้ น้ำที่ปล่อยจากระบบหล่อเย็นมีอุณหภูมิไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

โรงไฟฟ้าชีวมวล สหกรีน ฟอเรสท์

โรงไฟฟ้าชีวมวล สหกรีน ฟอเรสท์ ดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ด้วยการจัดสร้างบ่อเก็บน้ำขนาด 40 ไร่ สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง
ลูกบาศก์เมตรต่อปี
เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าตลอดทั้งปี

โครงสร้างประกอบด้วยบ่อรับน้ำแยกตะกอนและบ่อเก็บน้ำหลัก เพื่อรักษาคุณภาพน้ำ ลดการใช้สารเคมี และลดปริมาณน้ำทิ้งในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ บริษัทยังปลูกไม้ยืนต้นเป็นแนวกันลม (Green Belt) รอบพื้นที่เก็บกักน้ำ เพื่อลดการระเหยของน้ำและรองรับการนำน้ำที่เหลือจากระบบผลิตไฟฟ้ากลับมาใช้ใหม่ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำของชุมชน ทั้งนี้ น้ำที่ผ่านกระบวนการผลิตจะถูกบำบัดและพักไว้ในบ่อพักน้ำก่อนนำมาใช้รดน้ำพื้นที่สีเขียวของโรงไฟฟ้า ตามแนวทาง Zero Discharge โดยไม่มีการปล่อยน้ำทิ้งสู่ภายนอก

นอกจากนี้ยังดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำและอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรวมทั้งติดตามตรวจสอบระบบนิเวศทางน้ำบริเวณโรงไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ

การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านน้ำ

บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนเพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการขาดแคลนน้ำ และส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการผลิต โดยดำเนินมาตรการต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • การบริหารจัดการน้ำในโรงไฟฟ้า

    • โรงไฟฟ้า ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จังหวัดชลบุรี: ใช้น้ำดิบจากแหล่งน้ำที่ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา โดยมีสัญญาซื้อขายน้ำดิบระยะยาว 10 ปี พร้อมแหล่งน้ำสำรองสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน
    • โรงไฟฟ้า ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี และโรงไฟฟ้าชีวมวลสหโคเจน กรีน: ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ใช้น้ำจากแหล่งที่จัดสรรไว้เฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม ไม่กระทบต่อชุมชน
    • โรงไฟฟ้าชีวมวล สหกรีน ฟอเรสท์: จัดสร้างบ่อเก็บน้ำขนาด 40 ไร่ สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 370,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าตลอดทั้งปี
  • การประเมินความเสี่ยงด้านน้ำ

    • ประเมินความเสี่ยงด้านน้ำ เช่น ความเครียดน้ำ (water stress) อุทกภัย ภาวะน้ำแล้ง และคุณภาพน้ำ
    • ดำเนินการประเมินความเสี่ยงทั้งระยะสั้น (ประจำปี) และระยะยาว (ตลอดอายุโครงการ)
    • ใช้ผลการประเมินในการจัดทำและปรับปรุงแผนป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากความเสี่ยงด้านน้ำ
    • ดำเนินการทบทวนความเสี่ยงอย่างน้อยปีละครั้ง และปรับปรุงแผนตามข้อมูลคาดการณ์ที่แม่นยำขึ้น
  • มาตรการเสริมเพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

    • ติดตั้งระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนเข้ากระบวนการผลิต
    • เพิ่มจำนวนรอบการใช้น้ำหมุนเวียนในระบบหล่อเย็นเพื่อลดการใช้น้ำดิบ
    • นำน้ำที่ผ่านระบบบำบัด RO กลับมาใช้ใหม่ เช่น ใช้รดน้ำต้นไม้และพื้นที่สีเขียว
    • ตรวจสอบสภาพท่อส่งน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการรั่วไหลและสูญเสียน้ำ
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำตามหลัก 3Rs (Reduce-Reuse-Recycle)

    • ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตโดยเพิ่มรอบการใช้น้ำหมุนเวียนในระบบหอหล่อเย็น
    • ใช้น้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบน้ำเสียแทนการใช้น้ำดิบบางส่วน เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งน้ำสาธารณะ
    • ตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้งอย่างสม่ำเสมอให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
  • ความร่วมมือเชิงบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

    • ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมชลประทาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงชุมชนท้องถิ่น เพื่อหารือเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่ใช้ได้และความต้องการใช้น้ำ
    • ติดตามข้อมูลการคาดการณ์ปริมาณน้ำและสถานะของลุ่มน้ำต่างๆ
    • จัดทำข้อตกลงจัดหาน้ำสำรองร่วมกับผู้จัดจำหน่ายน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะขาดแคลนน้ำ

ปริมาณน้ำทิ้ง และคุณภาพน้ำทิ้ง ในช่วงระหว่างปี 2565 - 2567

ผลการดำเนินงาน ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567
โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี
ปริมาณน้ำทิ้ง (ลบ.ม./ต่อปี) 536,531 670,593 239,143
คุณภาพน้ำทิ้ง
อุณหภูมิ (˚C) 31.8 31.8 32.6
ความเป็นกรด-ด่าง 7.7 7.6 7.6
บีโอดี (BOD) (มก./ล.) 2.0 2.5 2.3
ซีโอดี (COD) (มก./ล.) 50.1 48.9 40.3
ของแข็งที่ละลายในน้ำ (มก./ล.) 863.6 855.4 805.5
โรงไฟฟ้าสหโคเจน กรีน
ปริมาณน้ำทิ้ง (ลบ.ม./ต่อปี) 54,760 48,627 60,000
คุณภาพน้ำทิ้ง
อุณหภูมิ (˚C) 32 34 33
ความเป็นกรด-ด่าง 8.7 8.7 8.8
บีโอดี (BOD) (มก./ล.) 21.1 11.6 9.0
ซีโอดี (COD) (มก./ล.) 161 80 97
ของแข็งที่ละลายในน้ำ (มก./ล.) < 3.0 < 3.0 < 3.0
โรงไฟฟ้าสหกรีน ฟอเรสท์
ปริมาณน้ำทิ้ง (ลบ.ม./ต่อปี) 78,419 58,740 51,082
คุณภาพน้ำทิ้ง
อุณหภูมิ (˚C) 31 31 31
ความเป็นกรด-ด่าง 7.5 7.9 8.0
บีโอดี (BOD) (มก./ล.) 11.6 9.3 8.7
ซีโอดี (COD) (มก./ล.) 118 87 75
ของแข็งที่ละลายในน้ำ (มก./ล.) < 3.0 < 3.0 < 3.0

ข้อมูลสถิติเหตุการณ์เกี่ยวกับการใช้น้ำ

เหตุการณ์/ปัญหา สถิติจำนวน (ครั้ง)
ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567
ความขัดแย้งกับผู้ใช้น้ำ / ผู้มีส่วนได้เสีย 0 0 0
ความรุนแรงด้านสิ่งแวดล้อม / ผิดกฎหมาย 0 0 0

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

คู่ค้า
ชุมชนและสังคม
พนักงาน
ผู้ถือหุ้น
ลูกค้า
ภาครัฐ และหน่วยงานกำกับดูแล ที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินการด้านความยั่งยืน