SCG

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

เป้าหมายที่ 16:
ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ

บริษัท ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จำกัด(มหาชน) ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าที่ต้องขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับ การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) ซึ่งเป็นรากฐานในการสร้างความโปร่งใส ความเชื่อมั่น และความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน ชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม

บริษัทมองเห็นทั้งโอกาสในการเสริมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ดึงดูดการลงทุน และยกระดับมาตรฐาน ESG ให้ทัดเทียมสากล รวมถึงความท้าทายจากกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เข้มข้นขึ้น ความคาดหวังจากผู้มีส่วนได้เสีย และความจำเป็นในการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตกับผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทาง กลยุทธ์ และปลูกฝังวัฒนธรรมธรรมาภิบาลภายในองค์กร ผ่านการสร้างโครงสร้างการกำกับดูแลที่โปร่งใส การกำหนดนโยบาย ESG ครอบคลุมทุกมิติ และการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุณค่าให้เติบโตไปพร้อมกันกับทุกภาคส่วน

แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า

โครงสร้างการกำกับดูแลกิจการ

คณะกรรมการบริษัท ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance Code) และการปฏิบัติตามหมวด 3/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559

โดยกำหนดบทบาทหน้าที่ในการกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานของฝ่ายจัดการ รวมถึงกำหนดนโยบายและวางแผนกลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับการบริหาร การปฏิบัติงานในปัจจุบันและอนาคตของบริษัท เพื่อให้การกำกับดูแลกิจการมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานสากล สร้างความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสีย และความเชื่อมั่นในระบบบริหารงานที่โปร่งใส และเป็นธรรม ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท ในเรื่องต่าง ๆ ทั้ง 5 คณะ ได้แก่

คณะกรรมการบริหาร

คณะกรรมการตรวจสอบ

คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน

คณะกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง

คณะกรรมการความยั่งยืน

องค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัท

คณะกรรมการบริษัท (Board of Directors) มีกรรมการจำนวน 12 คน ประกอบด้วย

กรรมการอิสระ
4 คน
คิดเป็น 33.33%
กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร (รวมกรรมการอิสระ 4 คน)
11 คน
คิดเป็น 91.67%
กรรมการที่เป็นผู้บริหาร
1 คน
คิดเป็น 8.33%
ความหลากหลายทางเพศ คิดเป็นสัดส่วนดังนี้

ชาย

11 คน

หญิง

1 คน

ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง

รายชื่อ วันที่แต่งตั้ง ตำแหน่ง
1. นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ 10 พ.ค. 2559 ประธานกรรมการ
2. นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ 14 พ.ค. 2567 รองประธานกรรมการ
3. นายสาครินทร์ ตังคะวชิรานนท์ 14 ธ.ค. 2564 กรรมการ
4. นางวดีรัตน์ เจริญคุปต์ 14 ธ.ค. 2564 กรรมการ
5. นายกล้าหาญ สุขไสว 20 ก.พ. 2568 กรรมการ,กรรมการผู้จัดการ
6. นายธีระศักดิ์ วิกิตเศรษฐ์ 6 มี.ค. 2546 กรรมการ
7. นายวรยศ ทองตัน 1 ม.ค. 2564 กรรมการ
8. นายอำพล วัฒนวรพงศ์ 12 พ.ย. 2567 กรรมการ
9. นายชินภัทร วิสุทธิแพทย์ 14 ธ.ค. 2564 กรรมการอิสระ
10. นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา 1 เม.ย. 2567 กรรมการอิสระ
11. นายเดชศิริ แสงสิงแก้ว 24 เม.ย. 2567 กรรมการอิสระ
12. นายชัยศักดิ์ ยงบรรเจิด 5 ม.ค. 2565 กรรมการอิสระ
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง

0-5 ปี

10 ท่าน

คิดเป็น 83%

5 ปี

2 ท่าน

คิดเป็น 17%

การสรรหาคณะกรรมการของบริษัท

คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทำหน้าที่สรรหาและกลั่นกรองบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการใหม่ กรรมการแทนกรรมการที่ครบกำหนดออกตามวาระ หรือกรณีอื่น ๆ เสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาเลือกตั้ง โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือคณะกรรมการบริษัท ตามข้อบังคับบริษัทและข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทมีกระบวนการสรรหากรรมการบริษัทอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจะเป็นผู้พิจารณาสรรหาและกลั่นกรองบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการชุดย่อย และกรรมการผู้แทนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม เสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาแต่งตั้งด้วย เพื่อให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายทางธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้บริษัทมีการบริหารจัดการ ที่ก่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส สามารถสร้างผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และนำพาให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้พิจารณาถึงองค์ประกอบในเรื่องความหลากหลายของคณะกรรมการ ได้แก่ สัดส่วนกรรมการอิสระ ความหลากหลายทางทักษะ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอันสอดคล้องกับกลยุทธ์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ตาม Board Skills Matrix โดยไม่มีข้อจำกัดหรือการกีดกันความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ สัญชาติ สีผิว ชาติพันธุ์ หรือศาสนา รวมทั้งได้พิจารณาจากรายชื่อบุคคลที่มีความสามารถในการเป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียน (Chartered Director) จากฐานข้อมูลกรรมการ (Director Pool) ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) รายชื่อกรรมการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือรายชื่อบุคคลอื่น เพื่อส่งเสริมให้องค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทฯ มีความหลากหลายและเหมาะสม อันจะช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทฯ ตอบสนองต่อแผนกลยุทธ์และเป้าหมายของบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ความหลากหลายทางวุฒิการศึกษาและความเชี่ยวชาญ (Board Skill Matrix)
รายชื่อ ประสบการณ์ในธุรกิจ และ/หรือ อุตสาหกรรม คุณวุฒิ ทักษะ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องด้านอื่นๆ
ธุรกิจไฟฟ้า/พลังงาน กิจการภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ กิจการภาคเอกชนอื่นๆ การวางแผนและ บริหารเชิงกลยุทธ์/การบริหารจัดการ ทรัพยากรบุคคลและค่าตอบแทน วิศวกรรมศาสตร์ บัญชี/การเงิน/เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย/กฎระเบียบ IT/Digital/Cyber การบริหารความเสี่ยง/การกำกับดูแลกิจการ/การพัฒนาอย่างยั่งยืน
1. นายสุจริต ปัจฉิมนันท์
2. นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์
3. นายสาครินทร์ ตังคะวชิรานนท์
4. นางวดีรัตน์ เจริญคุปต์
5. นายกล้าหาญ สุขไสว
6. นายธีระศักดิ์ วิกิตเศรษฐ์
7. นายวรยศ ทองตัน
8. นายอำพล วัฒนวรพงศ์
9. นายชินภัทร วิสุทธิแพทย์
10. นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา
11. นายเดชศิริ แสงสิงแก้ว
12. นายชัยศักดิ์ ยงบรรเจิด

หลักเกณฑ์การคัดเลือกกรรมการอิสระ

บริษัทมีกรรมการอิสระจำนวน 4 คน จากกรรมการทั้งหมด 12 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเป็นอิสระจากฝ่ายจัดการ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท จำนวนกรรมการอิสระของบริษัท เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนต้องมีกรรมการอิสระอย่างน้อยหนึ่งในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 คน คณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทำหน้าที่สรรหาและพิจารณากลั่นกรองบุคคลที่เหมาะสมเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท โดยพิจารณาจากข้อเสนอของผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อย รวมถึงบัญชีรายชื่อกรรมการ (Directors’ Pool) ของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือซึ่งเป็นฐานข้อมูลกรรมการที่ได้รวบรวมรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ ไว้ จากนั้นคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจะพิจารณาคุณสมบัติในประเด็นต่างๆ โดยบริษัท ได้กำหนดนิยามกรรมการอิสระตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

คุณสมบัติของกรรมการอิสระ
  • ถือหุ้นไม่เกินร้อยละหนึ่งของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้ขออนุญาต ทั้งนี้ ให้นับรวมการถือหุ้นของผู้ที่เกี่ยวข้องของกรรมการอิสระรายนั้น ๆ ด้วย

  • ไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมบริหารงาน ลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษาที่ได้เงินเดือนประจำ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำดับเดียวกัน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือของผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ลักษณะต้องห้ามดังกล่าวไม่รวมถึงกรณีที่กรรมการอิสระเคยเป็นข้าราชการ หรือที่ปรึกษา ของส่วนราชการซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท

  • ไม่เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต หรือโดยการจดทะเบียนตามกฎหมายในลักษณะที่เป็นบิดา มารดา คู่สมรส พี่น้อง และบุตร รวมทั้งคู่สมรสของบุตร ของกรรมการรายอื่น ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้มีอำนาจควบคุม หรือบุคคลที่จะได้รับการเสนอให้เป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท หรือบริษัทย่อย

  • ไม่มีหรือเคยมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัท บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทผู้ขออนุญาต ในลักษณะที่อาจเป็นการขัดขวางการใช้วิจารณญาณอย่างอิสระของตน รวมทั้งไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ถือหุ้นที่มีนัย หรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัท บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน

    ความสัมพันธ์ทางธุรกิจตามวรรคหนึ่ง รวมถึงการทำรายการทางการค้าที่กระทำเป็นปกติเพื่อประกอบกิจการ การเช่าหรือให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ รายการเกี่ยวกับสินทรัพย์หรือบริการ หรือการให้หรือรับความช่วยเหลือทางการเงิน ด้วยการรับหรือให้กู้ยืม ค้ำประกัน การให้สินทรัพย์เป็นหลักประกันหนี้สิน รวมถึงพฤติการณ์อื่นทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นผลให้บริษัทหรือคู่สัญญามีภาระหนี้ที่ต้องชำระต่ออีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งแต่ร้อยละสามของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัท หรือตั้งแต่ยี่สิบล้านบาทขึ้นไป แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า ทั้งนี้ การคำนวณภาระหนี้ดังกล่าวให้เป็นไปตามวิธีการคำนวณมูลค่าของรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยอนุโลม แต่ในการพิจารณาภาระหนี้ดังกล่าว ให้นับรวมภาระหนี้ที่เกิดขึ้นในระหว่างหนึ่งปีก่อนวันที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบุคคลเดียวกัน

  • ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท และไม่เป็นผู้ถือหุ้นที่มีนัย ผู้มีอำนาจควบคุม หรือหุ้นส่วนของสำนักงานสอบบัญชี ซึ่งมีผู้สอบบัญชีของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท สังกัดอยู่ เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน

  • ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ให้บริการทางวิชาชีพใด ๆ ซึ่งรวมถึงการให้บริการเป็นที่ปรึกษากฎหมายหรือที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งได้รับค่าบริการเกินกว่าสองล้านบาทต่อปี จากบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท และไม่เป็นผู้ถือหุ้นที่มีนัย ผู้มีอำนาจควบคุม หรือหุ้นส่วนของผู้ให้บริการทางวิชาชีพนั้นด้วย เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน

  • ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของกรรมการของบริษัท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  • ไม่ประกอบกิจการที่มีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันที่มีนัยกับกิจการของบริษัท หรือบริษัทย่อย หรือไม่เป็นหุ้นส่วนที่มีนัยในห้างหุ้นส่วน หรือเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมบริหารงาน ลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษาที่รับเงินเดือนประจำ หรือถือหุ้นเกินร้อยละหนึ่งของจำนวนหุ้น ที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทอื่น ซึ่งประกอบกิจการที่มีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันที่มีนัยกับกิจการของบริษัท หรือบริษัทย่อย

  • ไม่มีลักษณะอื่นใดที่ทำให้ไม่สามารถให้ความเห็นอย่างเป็นอิสระเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท

ทั้งนี้ หากคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ได้มีประกาศเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของกรรมการอิสระ กรรมการอิสระของบริษัทต้องมีคุณสมบัติตามที่ได้มีประกาศเปลี่ยนแปลงไปทุกประการ

ภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการอิสระที่มีลักษณะเป็นไปตามวรรคหนึ่ง ข้อ 1 ถึง ข้อ 9 แล้ว กรรมการอิสระอาจได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ให้ตัดสินใจในการดำเนินกิจการของผู้ขออนุญาต บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำดับเดียวกัน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้ขออนุญาต โดยมีการตัดสินใจในรูปแบบขององค์คณะ (Collective Decision) ได้

การประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัท

คณะกรรมการบริษัท มีนโยบายให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อยโดยรวมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง มอบหมายให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทบทวนแบบประเมินทุกปี ซึ่งแบบประเมินคณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วยแบบประเมินรายคณะ รายบุคคล และคณะกรรมการชุดย่อย ประกอบด้วยแบบประเมินตนเอง (ตามเกณฑ์การประเมินตนเองสำหรับคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย ของสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)) ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับนโยบายคณะกรรมการ โครงสร้างของคณะกรรมการ และแนวทางปฏิบัติของคณะกรรมการ คุณภาพการจัดเตรียมและการดำเนินการประชุม และเพื่อให้สอดคล้องกับบทหน้าที่และความรับผิดชอบตามที่กำหนดไว้ในกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการชุดย่อย

กรรมการทุกท่านมีความเป็นอิสระในการทำแบบประเมิน โดยแบบประเมินของกรรมการทั้งหมดจะถูกส่งกลับมายังฝ่ายเลขานุการบริษัท เพื่อประมวลภาพรวมและสรุปผลคะแนน และรายงานผลต่อที่ประชุมคณะกรรมการ เพื่อหารือกัน พร้อมนำข้อเสนอแนะมาพัฒนาปรับปรุง ให้การทำงานของคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการชุดย่อย มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้้นและเกิดประโยชน์สูงสุดในการกำกับดูแลกิจการ

การกำหนดค่าตอบแทนของกรรมการบริษัท

เพื่อให้มั่นใจได้ว่าค่าตอบแทนของกรรมการบริษัทมีการพิจารณาอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม คณะกรรมการบริษัทจึงได้กำหนดนโยบายค่าตอบแทนกรรมการบริษัท (ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567) โดยแต่งตั้งและมอบหมายให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทำหน้าที่ พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ รูปแบบ และวงเงินค่าตอบแทนสำหรับกรรมการของบริษัทและกรรมการชุดย่อย เสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและนําเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป

  • มีความเหมาะสมกับขอบเขตหน้าที่ระดับความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย และผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ได้แก่ ความสำเร็จในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจของบริษัท ทั้งด้านกำลังการผลิต สินทรัพย์ และกำไรสุทธิ เป็นต้น
  • เมื่อเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันและบริษัทที่มีขนาดใกล้เคียงกันแล้ว อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพียงพอที่จะจูงใจและรักษากรรมการที่มีคุณภาพไว้
  • ค่าตอบแทนประจำปี เพื่อสะท้อนถึงความรับผิดชอบและผลการปฏิบัติงานของกรรมการ
  • ค่าเบี้ยประชุม เพื่อสะท้อนถึงการปฏิบัติงานของกรรมการ และจูงใจให้กรรมการปฏิบัติหน้าที่โดยการ เข้าประชุมอย่างสม่ำเสมอ
  • ค่าตอบแทนอื่น (ถ้ามี) ตามที่คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจะพิจารณานำเสนอตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ ค่าตอบแทนของกรรมการไม่รวมถึงค่าตอบแทนหรือสวัสดิการที่กรรมการบริษัทได้รับในฐานะพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัท โดยบริษัทจะเปิดเผยจำนวนค่าตอบแทนกรรมการบริษัทและกรรมการชุดย่อยเป็นรายบุคคลในรายงานประจำปี

  • ค่าตอบแทนประจำปี : จ่ายให้กรรมการบริษัททุกคน โดยให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนไปพิจารณาจัดสรรตามนโยบายและหลักเกณฑ์ในการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการและผลการปฏิบัติงาน และเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติ
  • ค่าเบี้ยประชุม : จ่ายเฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม กรณีมีการประชุมในแต่ละเดือนมากกว่า 1 ครั้ง คงให้ได้รับเบี้ยประชุมไม่เกิน 1 ครั้ง ดังนี้
ตำแหน่ง ปี 2566 (บาท/ครั้ง) ปี 2567 (บาท/ครั้ง)
1. คณะกรรมการบริษัท ประธาน 20,000 20,000
กรรมการ 10,000 10,000
2. คณะกรรมการตรวจสอบ ประธาน 10,000 10,000
กรรมการ 10,000 10,000
3. คณะกรรมการบริหาร ประธาน 10,000 10,000
กรรมการ 10,000 10,000
4. คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ประธาน 5,000 5,000
กรรมการ 5,000 5,000
5. คณะกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง ประธาน 5,000 5,000
กรรมการ 5,000 5,000
6. คณะกรรมการชุดอื่น ประธาน 5,000 5,000
กรรมการ 5,000 5,000
  • ค่าตอบแทนอื่น (ถ้ามี): -ไม่มี-

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น
พนักงาน
ลูกค้า
คู่ค้า
ชุมชนและสังคม
เจ้าหนี้
ภาครัฐ และหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง