การกำกับดูแลกิจการที่ดี


การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
เป้าหมายที่ 16:
ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ
บริษัท ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จำกัด(มหาชน) ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าที่ต้องขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับ การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) ซึ่งเป็นรากฐานในการสร้างความโปร่งใส ความเชื่อมั่น และความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน ชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
บริษัทมองเห็นทั้งโอกาสในการเสริมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ดึงดูดการลงทุน และยกระดับมาตรฐาน ESG ให้ทัดเทียมสากล รวมถึงความท้าทายจากกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เข้มข้นขึ้น ความคาดหวังจากผู้มีส่วนได้เสีย และความจำเป็นในการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตกับผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทาง กลยุทธ์ และปลูกฝังวัฒนธรรมธรรมาภิบาลภายในองค์กร ผ่านการสร้างโครงสร้างการกำกับดูแลที่โปร่งใส การกำหนดนโยบาย ESG ครอบคลุมทุกมิติ และการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุณค่าให้เติบโตไปพร้อมกันกับทุกภาคส่วน

แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า
โครงสร้างการกำกับดูแลกิจการ
คณะกรรมการบริษัท ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance Code) และการปฏิบัติตามหมวด 3/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559
โดยกำหนดบทบาทหน้าที่ในการกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานของฝ่ายจัดการ รวมถึงกำหนดนโยบายและวางแผนกลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับการบริหาร การปฏิบัติงานในปัจจุบันและอนาคตของบริษัท เพื่อให้การกำกับดูแลกิจการมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานสากล สร้างความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสีย และความเชื่อมั่นในระบบบริหารงานที่โปร่งใส และเป็นธรรม ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท ในเรื่องต่าง ๆ ทั้ง 5 คณะ ได้แก่
คณะกรรมการบริหาร
คณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
คณะกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการความยั่งยืน
องค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัท (Board of Directors) มีกรรมการจำนวน 12 คน ประกอบด้วย
ความหลากหลายทางเพศ คิดเป็นสัดส่วนดังนี้
ชาย
11 คน
หญิง
1 คน
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง
รายชื่อ | วันที่แต่งตั้ง | ตำแหน่ง |
---|---|---|
1. นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ | 10 พ.ค. 2559 | ประธานกรรมการ |
2. นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ | 14 พ.ค. 2567 | รองประธานกรรมการ |
3. นายสาครินทร์ ตังคะวชิรานนท์ | 14 ธ.ค. 2564 | กรรมการ |
4. นางวดีรัตน์ เจริญคุปต์ | 14 ธ.ค. 2564 | กรรมการ |
5. นายกล้าหาญ สุขไสว | 20 ก.พ. 2568 | กรรมการ,กรรมการผู้จัดการ |
6. นายธีระศักดิ์ วิกิตเศรษฐ์ | 6 มี.ค. 2546 | กรรมการ |
7. นายวรยศ ทองตัน | 1 ม.ค. 2564 | กรรมการ |
8. นายอำพล วัฒนวรพงศ์ | 12 พ.ย. 2567 | กรรมการ |
9. นายชินภัทร วิสุทธิแพทย์ | 14 ธ.ค. 2564 | กรรมการอิสระ |
10. นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา | 1 เม.ย. 2567 | กรรมการอิสระ |
11. นายเดชศิริ แสงสิงแก้ว | 24 เม.ย. 2567 | กรรมการอิสระ |
12. นายชัยศักดิ์ ยงบรรเจิด | 5 ม.ค. 2565 | กรรมการอิสระ |
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง
0-5 ปี
10 ท่าน
คิดเป็น 83%
5 ปี
2 ท่าน
คิดเป็น 17%
การสรรหาคณะกรรมการของบริษัท
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทำหน้าที่สรรหาและกลั่นกรองบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการใหม่ กรรมการแทนกรรมการที่ครบกำหนดออกตามวาระ หรือกรณีอื่น ๆ เสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาเลือกตั้ง โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือคณะกรรมการบริษัท ตามข้อบังคับบริษัทและข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทมีกระบวนการสรรหากรรมการบริษัทอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจะเป็นผู้พิจารณาสรรหาและกลั่นกรองบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการชุดย่อย และกรรมการผู้แทนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม เสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาแต่งตั้งด้วย เพื่อให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายทางธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้บริษัทมีการบริหารจัดการ ที่ก่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส สามารถสร้างผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และนำพาให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ บริษัทยังได้พิจารณาถึงองค์ประกอบในเรื่องความหลากหลายของคณะกรรมการ ได้แก่ สัดส่วนกรรมการอิสระ ความหลากหลายทางทักษะ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอันสอดคล้องกับกลยุทธ์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ตาม Board Skills Matrix โดยไม่มีข้อจำกัดหรือการกีดกันความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ สัญชาติ สีผิว ชาติพันธุ์ หรือศาสนา รวมทั้งได้พิจารณาจากรายชื่อบุคคลที่มีความสามารถในการเป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียน (Chartered Director) จากฐานข้อมูลกรรมการ (Director Pool) ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) รายชื่อกรรมการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือรายชื่อบุคคลอื่น เพื่อส่งเสริมให้องค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทฯ มีความหลากหลายและเหมาะสม อันจะช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทฯ ตอบสนองต่อแผนกลยุทธ์และเป้าหมายของบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ความหลากหลายทางวุฒิการศึกษาและความเชี่ยวชาญ (Board Skill Matrix)
รายชื่อ | ประสบการณ์ในธุรกิจ และ/หรือ อุตสาหกรรม | คุณวุฒิ ทักษะ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องด้านอื่นๆ | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ธุรกิจไฟฟ้า/พลังงาน | กิจการภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ | กิจการภาคเอกชนอื่นๆ | การวางแผนและ บริหารเชิงกลยุทธ์/การบริหารจัดการ | ทรัพยากรบุคคลและค่าตอบแทน | วิศวกรรมศาสตร์ | บัญชี/การเงิน/เศรษฐศาสตร์ | กฎหมาย/กฎระเบียบ | IT/Digital/Cyber | การบริหารความเสี่ยง/การกำกับดูแลกิจการ/การพัฒนาอย่างยั่งยืน | |||
1. นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ | ||||||||||||
2. นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ | ||||||||||||
3. นายสาครินทร์ ตังคะวชิรานนท์ | ||||||||||||
4. นางวดีรัตน์ เจริญคุปต์ | ||||||||||||
5. นายกล้าหาญ สุขไสว | ||||||||||||
6. นายธีระศักดิ์ วิกิตเศรษฐ์ | ||||||||||||
7. นายวรยศ ทองตัน | ||||||||||||
8. นายอำพล วัฒนวรพงศ์ | ||||||||||||
9. นายชินภัทร วิสุทธิแพทย์ | ||||||||||||
10. นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา | ||||||||||||
11. นายเดชศิริ แสงสิงแก้ว | ||||||||||||
12. นายชัยศักดิ์ ยงบรรเจิด |
หลักเกณฑ์การคัดเลือกกรรมการอิสระ
บริษัทมีกรรมการอิสระจำนวน 4 คน จากกรรมการทั้งหมด 12 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเป็นอิสระจากฝ่ายจัดการ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท จำนวนกรรมการอิสระของบริษัท เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนต้องมีกรรมการอิสระอย่างน้อยหนึ่งในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 คน คณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทำหน้าที่สรรหาและพิจารณากลั่นกรองบุคคลที่เหมาะสมเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท โดยพิจารณาจากข้อเสนอของผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อย รวมถึงบัญชีรายชื่อกรรมการ (Directors’ Pool) ของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือซึ่งเป็นฐานข้อมูลกรรมการที่ได้รวบรวมรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ ไว้ จากนั้นคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจะพิจารณาคุณสมบัติในประเด็นต่างๆ โดยบริษัท ได้กำหนดนิยามกรรมการอิสระตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
คุณสมบัติของกรรมการอิสระ
-
ถือหุ้นไม่เกินร้อยละหนึ่งของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้ขออนุญาต ทั้งนี้ ให้นับรวมการถือหุ้นของผู้ที่เกี่ยวข้องของกรรมการอิสระรายนั้น ๆ ด้วย
-
ไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมบริหารงาน ลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษาที่ได้เงินเดือนประจำ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำดับเดียวกัน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือของผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ลักษณะต้องห้ามดังกล่าวไม่รวมถึงกรณีที่กรรมการอิสระเคยเป็นข้าราชการ หรือที่ปรึกษา ของส่วนราชการซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท
-
ไม่เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต หรือโดยการจดทะเบียนตามกฎหมายในลักษณะที่เป็นบิดา มารดา คู่สมรส พี่น้อง และบุตร รวมทั้งคู่สมรสของบุตร ของกรรมการรายอื่น ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้มีอำนาจควบคุม หรือบุคคลที่จะได้รับการเสนอให้เป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท หรือบริษัทย่อย
-
ไม่มีหรือเคยมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัท บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทผู้ขออนุญาต ในลักษณะที่อาจเป็นการขัดขวางการใช้วิจารณญาณอย่างอิสระของตน รวมทั้งไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ถือหุ้นที่มีนัย หรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัท บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน
ความสัมพันธ์ทางธุรกิจตามวรรคหนึ่ง รวมถึงการทำรายการทางการค้าที่กระทำเป็นปกติเพื่อประกอบกิจการ การเช่าหรือให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ รายการเกี่ยวกับสินทรัพย์หรือบริการ หรือการให้หรือรับความช่วยเหลือทางการเงิน ด้วยการรับหรือให้กู้ยืม ค้ำประกัน การให้สินทรัพย์เป็นหลักประกันหนี้สิน รวมถึงพฤติการณ์อื่นทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นผลให้บริษัทหรือคู่สัญญามีภาระหนี้ที่ต้องชำระต่ออีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งแต่ร้อยละสามของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัท หรือตั้งแต่ยี่สิบล้านบาทขึ้นไป แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า ทั้งนี้ การคำนวณภาระหนี้ดังกล่าวให้เป็นไปตามวิธีการคำนวณมูลค่าของรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยอนุโลม แต่ในการพิจารณาภาระหนี้ดังกล่าว ให้นับรวมภาระหนี้ที่เกิดขึ้นในระหว่างหนึ่งปีก่อนวันที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบุคคลเดียวกัน
-
ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท และไม่เป็นผู้ถือหุ้นที่มีนัย ผู้มีอำนาจควบคุม หรือหุ้นส่วนของสำนักงานสอบบัญชี ซึ่งมีผู้สอบบัญชีของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท สังกัดอยู่ เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน
-
ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ให้บริการทางวิชาชีพใด ๆ ซึ่งรวมถึงการให้บริการเป็นที่ปรึกษากฎหมายหรือที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งได้รับค่าบริการเกินกว่าสองล้านบาทต่อปี จากบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท และไม่เป็นผู้ถือหุ้นที่มีนัย ผู้มีอำนาจควบคุม หรือหุ้นส่วนของผู้ให้บริการทางวิชาชีพนั้นด้วย เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน
-
ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของกรรมการของบริษัท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่
-
ไม่ประกอบกิจการที่มีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันที่มีนัยกับกิจการของบริษัท หรือบริษัทย่อย หรือไม่เป็นหุ้นส่วนที่มีนัยในห้างหุ้นส่วน หรือเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมบริหารงาน ลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษาที่รับเงินเดือนประจำ หรือถือหุ้นเกินร้อยละหนึ่งของจำนวนหุ้น ที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทอื่น ซึ่งประกอบกิจการที่มีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันที่มีนัยกับกิจการของบริษัท หรือบริษัทย่อย
-
ไม่มีลักษณะอื่นใดที่ทำให้ไม่สามารถให้ความเห็นอย่างเป็นอิสระเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ได้มีประกาศเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของกรรมการอิสระ กรรมการอิสระของบริษัทต้องมีคุณสมบัติตามที่ได้มีประกาศเปลี่ยนแปลงไปทุกประการ
ภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการอิสระที่มีลักษณะเป็นไปตามวรรคหนึ่ง ข้อ 1 ถึง ข้อ 9 แล้ว กรรมการอิสระอาจได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ให้ตัดสินใจในการดำเนินกิจการของผู้ขออนุญาต บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำดับเดียวกัน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้ขออนุญาต โดยมีการตัดสินใจในรูปแบบขององค์คณะ (Collective Decision) ได้
การประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัท มีนโยบายให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อยโดยรวมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง มอบหมายให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทบทวนแบบประเมินทุกปี ซึ่งแบบประเมินคณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วยแบบประเมินรายคณะ รายบุคคล และคณะกรรมการชุดย่อย ประกอบด้วยแบบประเมินตนเอง (ตามเกณฑ์การประเมินตนเองสำหรับคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย ของสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)) ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับนโยบายคณะกรรมการ โครงสร้างของคณะกรรมการ และแนวทางปฏิบัติของคณะกรรมการ คุณภาพการจัดเตรียมและการดำเนินการประชุม และเพื่อให้สอดคล้องกับบทหน้าที่และความรับผิดชอบตามที่กำหนดไว้ในกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการชุดย่อย
กรรมการทุกท่านมีความเป็นอิสระในการทำแบบประเมิน โดยแบบประเมินของกรรมการทั้งหมดจะถูกส่งกลับมายังฝ่ายเลขานุการบริษัท เพื่อประมวลภาพรวมและสรุปผลคะแนน และรายงานผลต่อที่ประชุมคณะกรรมการ เพื่อหารือกัน พร้อมนำข้อเสนอแนะมาพัฒนาปรับปรุง ให้การทำงานของคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการชุดย่อย มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้้นและเกิดประโยชน์สูงสุดในการกำกับดูแลกิจการ
การกำหนดค่าตอบแทนของกรรมการบริษัท
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าค่าตอบแทนของกรรมการบริษัทมีการพิจารณาอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม คณะกรรมการบริษัทจึงได้กำหนดนโยบายค่าตอบแทนกรรมการบริษัท (ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567) โดยแต่งตั้งและมอบหมายให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ทำหน้าที่ พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ รูปแบบ และวงเงินค่าตอบแทนสำหรับกรรมการของบริษัทและกรรมการชุดย่อย เสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและนําเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป
- มีความเหมาะสมกับขอบเขตหน้าที่ระดับความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย และผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ได้แก่ ความสำเร็จในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจของบริษัท ทั้งด้านกำลังการผลิต สินทรัพย์ และกำไรสุทธิ เป็นต้น
- เมื่อเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันและบริษัทที่มีขนาดใกล้เคียงกันแล้ว อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพียงพอที่จะจูงใจและรักษากรรมการที่มีคุณภาพไว้
- ค่าตอบแทนประจำปี เพื่อสะท้อนถึงความรับผิดชอบและผลการปฏิบัติงานของกรรมการ
- ค่าเบี้ยประชุม เพื่อสะท้อนถึงการปฏิบัติงานของกรรมการ และจูงใจให้กรรมการปฏิบัติหน้าที่โดยการ เข้าประชุมอย่างสม่ำเสมอ
- ค่าตอบแทนอื่น (ถ้ามี) ตามที่คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจะพิจารณานำเสนอตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ ค่าตอบแทนของกรรมการไม่รวมถึงค่าตอบแทนหรือสวัสดิการที่กรรมการบริษัทได้รับในฐานะพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัท โดยบริษัทจะเปิดเผยจำนวนค่าตอบแทนกรรมการบริษัทและกรรมการชุดย่อยเป็นรายบุคคลในรายงานประจำปี
- ค่าตอบแทนประจำปี : จ่ายให้กรรมการบริษัททุกคน โดยให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนไปพิจารณาจัดสรรตามนโยบายและหลักเกณฑ์ในการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการและผลการปฏิบัติงาน และเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติ
- ค่าเบี้ยประชุม : จ่ายเฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม กรณีมีการประชุมในแต่ละเดือนมากกว่า 1 ครั้ง คงให้ได้รับเบี้ยประชุมไม่เกิน 1 ครั้ง ดังนี้
ตำแหน่ง | ปี 2566 (บาท/ครั้ง) | ปี 2567 (บาท/ครั้ง) | |
---|---|---|---|
1. คณะกรรมการบริษัท | ประธาน | 20,000 | 20,000 |
กรรมการ | 10,000 | 10,000 | |
2. คณะกรรมการตรวจสอบ | ประธาน | 10,000 | 10,000 |
กรรมการ | 10,000 | 10,000 | |
3. คณะกรรมการบริหาร | ประธาน | 10,000 | 10,000 |
กรรมการ | 10,000 | 10,000 | |
4. คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน | ประธาน | 5,000 | 5,000 |
กรรมการ | 5,000 | 5,000 | |
5. คณะกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง | ประธาน | 5,000 | 5,000 |
กรรมการ | 5,000 | 5,000 | |
6. คณะกรรมการชุดอื่น | ประธาน | 5,000 | 5,000 |
กรรมการ | 5,000 | 5,000 |
- ค่าตอบแทนอื่น (ถ้ามี): -ไม่มี-